ปรีติ คุปตา
ประธานบริหารกลุ่ม
ฝ่ายทรัพยากรบุคคลกลุ่ม
อดิตยา เบอร์ล่า กรุ๊ป
บทสนทนาเกี่ยวกับเทคโนโลยีจัดการทรัพยากรบุคคล อนาคต และผลกระทบที่อาจมีต่อธุรกิจ
ปรีติ คุปตา ศิษย์เก่าวิทยาลัยการจัดการ XLRI* และคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Xavier School of Management) เป็นประธานบริหารกลุ่ม และฝ่ายทรัพยากรบุคคลของอดิตยา เบอร์ล่า กรุ๊ป
กว่า 20 ปี ที่อดิตยา เบอร์ล่า ปรีติเป็นหัวหอกในโครงการด้านทรัพยากรบุคคลที่สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน ตั้งแต่ประสิทธิภาพขององค์กร การบริหารผลการปฏิบัติงาน งานทรัพยากรบุคคลที่ Aditya Birla Management Corporation และอื่นๆ อีกมากมาย ปัจจุบัน เธอเป็นผู้บริหารระบบทรัพยากรบุคคล เช่น ผลการปฏิบัติงาน ค่าตอบแทน การออกแบบและพัฒนาองค์กร วัฒนธรรมและความหลากหลายในองค์กร ความหลากหลายและการยอมรับ สวัสดิภาพและการมีส่วนร่วมของพนักงาน เทคโนโลยีดิจิทัลด้านทรัพยากรบุคคล และธรรมาภิบาลด้านทรัพยากรบุคคล
ในจดหมายข่าวราย 3 เดือนฉบับแรกของเรา “การดูแลคนเป็นสิ่งที่ดีต่อธุรกิจ” เราเคยคุยกับปรีติมาแล้ว และนี่คือมุมมองที่โดดเด่นมากๆ ของเธอเกี่ยวกับเทคโนโลยีทรัพยากรบุคคลว่าจะต้องพัฒนาต่อไปอย่างไร จึงจะสร้างผลกระทบต่อธุรกิจได้
คำถาม: ในยุคสมัยที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในชีวิตเรา อดิตยา เบอร์ล่า กรุ๊ป เป็นหนึ่งในกลุ่มบริษัทไม่กี่แห่งที่ใช้เทคโนโลยีจัดการทรัพยากรบุคคล ในฐานะหุ้นส่วนของคุณ เราได้ที่นั่งแถวหน้าสำหรับเรื่องนี้ แต่คุณช่วยเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมว่า ในขณะที่ทุกคนระงับโปรเจกต์ใหญ่ๆ ในยุคโควิด อะไรทำให้คุณลุยต่อ
ที่อดิตยา เบอร์ล่า กรุ๊ป เราพิถีพิถันในสิ่งที่เราเลือกและดูไปจนตลอดรอดฝั่ง ค่านิยมของเรา “ความซื่อตรง” และ “ความตั้งใจ” เป็นสิ่งที่ยืนยันว่า เราจะยึดมั่นต่อหุ้นส่วนของเราและโปรเจกต์ที่ดำเนินไปแล้ว เราตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีจัดการทรัพยากรบุคคลเมื่อเดือนพฤศจิกายน เราตั้งทีมที่ดูแลโปรเจกต์นี้ช่วงเดือนธันวาคม 2019 และมกราคม 2020 และพวกเขายังทำงานตามปกติในช่วงล็อกดาวน์ เอาชนะข้อจำกัดด้านงบประมาณ และการเปลี่ยนแปลงระหว่างทางหลายๆ อย่างเนื่องจากสถานการณ์โควิด-19
คำถาม: คุณคิดว่าเทคโนโลยีจัดการทรัพยากรบุคคลจะมีบทบาทอย่างไรต่อรูปแบบใหม่ของการทำงาน ที่การทำงานทางไกลจะเป็นความจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
ฉันคิดว่าการหลอมรวมเทคโนโลยีแต่ละอย่างให้เป็นเทคโนโลยีที่ทำงานที่เป็นหนึ่งเดียวกันจะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในโลกการทำงานยุคใหม่ ขณะที่เราเริ่มทำงานทางไกลกัน ซึ่งเมื่อก่อนมันไม่เป็นแบบนี้ ในองค์กรขนาดใหญ่เช่นบริษัทของเรา เราลงทุนทั้งในเทคโนโลยีจัดการทรัพยากรบุคคล และเทคโนโลยีเชิงหน้าที่อื่นๆ มานานแล้ว แต่ประสบการณ์ของพนักงาน อินเตอร์เฟซของลูกค้า และแพลตฟอร์มของหุ้นส่วนนั้นยังกระจัดกระจาย และถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเชื่อมต่อ “ทางเดียว” (เป็นการให้ข้อมูลมากกว่าการมีปฏิสัมพันธ์) ซึ่งค่อนข้างห่างไกลจากการตอบสนองและความพึงพอใจ
การเว้นระยะห่างทางสังคมและการทำงานทางไกลได้ท้าทายความเชื่อเหล่านี้ที่เราอยู่กับมันมาตลอด
ไม่ว่าจะเป็นความต้องการพื้นฐานในชีวิตประจำวัน สิ่งฟุ่มเฟือย ความต้องการทางการแพทย์ หรือความต้องการทางการเงิน ทุกอย่างสามารถตอบสนองได้ “เมื่อเราต้องการ” หรือในโลกเสมือน
อินเดียพรีเมียร์ลีก (ลีกคริกเก็ตสูงสุดของอินเดีย) ฤดูกาลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า แม้แต่ความบันเทิงก็ยังนำเสนอออกมาในรูปแบบเสมือนจริงโดยที่อรรถรสยังเท่าเดิม ด้วยเชียร์ลีดเดอร์ดิจิทัล และเสียงผู้ชมที่สร้างขึ้นด้วยปัญญาประดิษฐ์ เรื่องราวที่เกิดขึ้นจะคล้ายๆ กัน MS Teams, Office 365, Zoom, ไวต์บอร์ด และเครื่องมือสำหรับการทำงานร่วมกันอื่นๆ ที่ช่วยให้ทุกคนทำงานของตัวเองต่อได้จากที่บ้านหรือที่ใดๆ ตามปกติ หรือมีประสิทธิภาพยิ่งกว่าแต่ก่อน การเรียนรู้แบบดิจิทัล การอำนวยความสะดวกและการเข้าถึงตอนนี้เป็นชีวิตวิถีใหม่ แต่ละทีมอยู่ห่างกันไม่ถึงนาที ความรวดเร็วและคล่องตัวเป็นสิ่งใหม่ที่ทีมต้องการ ที่จริงแล้ว ที่อดิตยา เบอร์ล่า กรุ๊ป เรากำลังใช้ยุทธศาสตร์ทรัพยากรบุคคล ปี 2022-2024 ที่วาดภาพการทำงานร่วมกันแบบดิจิทัลกับทีมที่แข็งแกร่งทั่วโลกมากกว่า 100 ทีม ขณะที่แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ทำงานทำให้สถานที่ทำงานไม่ต้องการการสัมผัส (พื้นที่สาธารณะ เช่น ลิฟต์ โรงอาหาร และขั้นตอนพื้นฐาน เช่น การจ่ายบิล) เทคโนโลยีอินเตอร์เฟซพนักงานจึงเข้ามามีบทบาท วิธีที่เราผ่อนคลาย เสนอผลงาน และทำงานร่วมกันจะเปลี่ยนแปลงตลอดไปเช่นกัน การทำงานทางไกลจะเป็นเรื่องปกติ เช่นเดียวกับบุคลากรชั่วคราวที่เป็นผู้เชี่ยวชาญในบริษัทที่มองว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวคือโอกาส คุณสมบัติหลายอย่างของเทคโนโลยีที่มีอยู่ซึ่งเคยใช้กันน้อย ตอนนี้ก็จะแพร่หลายมากขึ้น โลกการทำงานยุคใหม่จะให้ความสำคัญกับ “ประสบการของผู้ใช้” “นวัตกรรม” และ “สภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย” และมันจะเห็นได้ในทุกแวดวง ตั้งแต่การผลิต ไปจนถึงธุรกิจค้าปลีกและบริการ
คำถาม: จะวางตำแหน่งเทคโนโลยีจัดการทรัพยากรบุคลอย่างไรถึงจะดีที่สุดสำหรับการลงทุนในธุรกิจ ในช่วงเวลาที่ซีอีโอและซีเอฟโอต่างคิดถึงการรักษาสภาพคล่อง
บทบาทที่เทคโนโลยีเข้ามีส่วนในการทำให้ธุรกิจดำเนินต่อไปได้ และประสบการณ์ของผู้คนในช่วงล็อกดาวน์ จะเป็นที่ประจักษ์ต่อผู้บริหารทุกคน ดังนั้น ฉันมั่นใจว่าองค์กรส่วนใหญ่จะลงทุนในเทคโนโลยี โดยเป็นข้อเสนอแรกเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการลงทุน เวลาที่พวกเขาวางแผนเพื่ออนาคต ฉันจะไม่วางตำแหน่งเทคโนโลยีจัดการทรัพยากรบุคคลเป็นการลงทุนโดดๆ อีกต่อไป มันต้องเป็นส่วนหนึ่งของที่ทำงานอัจฉริยะที่รวมหลายๆ อย่างเข้าด้วยกัน โดยให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ เพื่อเข้าใจพฤติกรรมในที่ทำงาน
ประโยชน์ของเทคโนโลยีที่ทำงานที่เป็นหนึ่งเดียวกันนี้สามารถวัดผลเป็นตัวเลขได้ โดยดูจาก “เวลาที่คืนให้พนักงาน” และ “ประสิทธิภาพในการตัดสินใจ” ที่เรามองเห็นคือ แพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ทำงานที่บูรณาการเข้าด้วยกันจะทำให้พนักงานได้เวลาคืน 30 – 60 นาที ได้อย่างสบายๆ ซึ่งจะมีผลอย่างมากต่อประสิทธิผลของพนักงาน
คำถาม: ผลิตภาพและประสิทธิภาพของบุคลากรมาเป็นอันดันแรก แล้วเทคโนโลยีจะทำให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ในช่วงล็อกดาวน์ เราต่างเห็นแล้วว่าบุคลากรทำให้มีประสิทธิผลในระดับสูงกว่าที่คิดไว้ เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญมาก เรากำลังมองหาการทำงานร่วมกันและการบูรณาการของระบบทรัพยากรบุคคลกับระบบอื่นๆ ที่ใช้ทั่วองค์กร เช่น เทคโนโลยีสำนักงานอัจฉริยะ (Smart WorkPlace) ระบบบริหารทรัพยากรองค์กร (ERP) และอื่นๆ รวมถึงหาทางเพิ่มการวิเคราะห์และปัญญาประดิษฐ์เข้าไป เพื่อเชื่อมต่อผู้คนและธุรกิจเข้าด้วยกัน
คำถาม: ผลิตภาพและประสิทธิภาพของบุคลากรมาเป็นอันดันแรก แล้วเทคโนโลยีจะทำให้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร
ในช่วงล็อกดาวน์ เราต่างเห็นแล้วว่าบุคลากรทำให้มีประสิทธิผลในระดับสูงกว่าที่คิดไว้ เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญมาก เรากำลังมองหาการทำงานร่วมกันและการบูรณาการของระบบทรัพยากรบุคคลกับระบบอื่นๆ ที่ใช้ทั่วองค์กร เช่น เทคโนโลยีสำนักงานอัจฉริยะ (Smart WorkPlace) ระบบบริหารทรัพยากรองค์กร (ERP) และอื่นๆ รวมถึงหาทางเพิ่มการวิเคราะห์และปัญญาประดิษฐ์เข้าไป เพื่อเชื่อมต่อผู้คนและธุรกิจเข้าด้วยกัน
คำถาม: ธีมของจดหมายข่าวฉบับปัจจุบันนี้คือ “การทำงานร่วมกันคือมาตรฐานใหม่” คุณมีความเห็นว่าอย่างไร คุณจะทำให้ทีมทำงานร่วมกันได้ดีกว่าเดิมได้อย่างไร ในฐานะที่เป็นกลุ่มบริษัทชั้นนำของเอเชีย
“การทำงานร่วมกัน” เป็นสิ่งที่เป็นที่ยอมรับเสมอ มันแค่เพิ่งจะเปลี่ยนมาเป็น “ดิจิทัล” อย่างชัดเจน 😊 ในบรรดาสิ่งอื่นๆ ที่เรากำลังทำที่อดิตยา เบอร์ล่า กรุ๊ปในช่วงเวลาที่ไม่แน่นอนนี้ เรามุ่งเน้นที่การสร้างที่ทำงานดิจิทัลที่ยังรักษาคุณค่าของการทำงานร่วมกันของผู้คนแบบดั้งเดิม แต่ด้วยวิธีที่เป็นดิจิทัลและสะดวกสบาย