#แข็งแกร่งขึ้นไปด้วยกัน: แนวโน้มวงการทรัพยากรบุคคล และสิ่งสำคัญลำดับต้น ๆ ในปี 2022

เราอยู่ในการปฏิวัติด้านทรัพยากรบุคคลมาเกือบสองปีแล้ว เราเริ่มปีด้วยการถอนหายใจว่าในที่สุดก็หมดปี 2020 และหวังว่าวิกฤตโรคระบาดจะผ่านพ้นไปแล้ว แต่ไม่มีใครรู้ว่ามีอย่างอื่นรอเราอยู่อีก การทำงานทางไกล การทำงานแบบไฮบริด การกลับมาทำงาน การทำงานอย่างปลอดภัย และอื่นๆ อีกมากมาย เราผ่านช่วงเวลาที่สับสนวุ่นวายมาด้วยกัน

จากการให้บริการลูกค้ากว่า 500 ราย และผู้ใช้มากกว่า 2 ล้านคนทั่วเอเชียแปซิฟิก เรามองเห็นพระอาทิตย์ขึ้นสำหรับการประกอบธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  ขณะที่การให้คนเป็นศูนย์กลางเป็นมากกว่าภาษาเฉพาะวงการ เราเรียนรู้มามาก และขณะที่ใกล้หมดปีนี้เข้ามาทุกที ก็ถึงเวลาที่จะย้อนดูการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดที่เราได้พบเห็นมา ว่ามันจะส่งผลอย่างไรต่อสิ่งที่กำลังจะมาถึงในปีใหม่

1. รับการคิดเชิงออกแบบที่ให้คนมาเป็นอันดับหนึ่ง

ในฐานะที่อยู่แวดวงทรัพยากรบุคคลด้วยกัน เรารู้ว่าชาวทรัพยากรบุคคลชอบโมเดล เทมเพลต และแผนงาน แต่เมื่อโควิด-19 ระบาด ทั้งหมดนั้นก็ถูกโยนออกนอกหน้าต่างไป โมเดลที่เคยใช้ได้ผลมานานมากกลับใช้ไม่ได้ ทีมต้องการโครงสร้าง โมเดล และลำดับการทำงานใหม่ เพื่อให้คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ฝ่ายทรัพยากรบุคคลกลับไปใช้กระดาน และเริ่มสร้างกระบวนการต่าง ๆ โดยให้ ‘ผู้ใช้’  เช่น พนักงาน เป็นศูนย์กลางของประสบการณ์ในโมเดลการให้บริการ

เราเห็นการคิดเชิงออกแบบกำลังมา:

ในหนึ่งประโยค การคิดเชิงออกแบบ คือกระบวนการสำหรับ ‘การแก้ปัญหา’ ที่สร้างสรรค์

วิธีแก้ปัญหาและเทคโนโลยีที่เป็นแบบแผนไม่เพียงพอที่จะขับเคลื่อนการเติบโต หรือทำให้คล่องตัวอีกต่อไป การเปลี่ยนแปลงในแนวทางนี้จะส่งผลถาวร โดยจะทำให้ทีมทรัพยากรบุคคลมีประสิทธิภาพสูง มองไปในปี 2022 องค์กรจำนวนมากขึ้นจะเลือกพื้นฐานเทคโนโลยีทรัพยากรบุคคลเป็นวิธีแก้ปัญหากรณีต่าง ๆ แทนที่จะเลือกรายการคุณสมบัติมากมาย

2. จากแนวทางแบบเหมารวมสู่แนวทางเฉพาะบุคคล: การจัดการบุคลากรที่เจาะจงตัวบุคคลสูง

เราต่างเป็นฝ่ายรับในแนวทางแบบเดียวใช้ได้ทั้งหมด เส้นทางการเรียนรู้ โปรแกรมพัฒนาทักษะ หรือแม้แต่การประเมินผลงานที่คล้าย ๆ กัน ในฐานะผู้บริโภค บุคลากรของเราใช้ชีวิตที่เป็นดิจิทัลโดยสมบูรณ์ มีการอัปเกรดบริการอย่างต่อเนื่อง และการตอบสนองความต้องการเฉพาะบุคคลที่ไร้รอยต่อ แต่เมื่อพวกเขาเปิดแลปท็อปทำงาน ประสบการณ์กลับต่างกัน บ่อยครั้งที่มันน่าเบื่อ และขาดการเชื่อมต่อระหว่างหลาย ๆ หน่วย ในปีที่ผ่านมา ช่องว่างนี้ได้ลดลงอย่างมาก ขณะที่บุคลากรที่มีความสามารถขึ้นมาบทบาทสำคัญ และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าขึ้นในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ และการเรียนรู้ของเครื่องจักร (อย่าพลาดระบบอัจฉริยะด้านบุคลากรคุณภาพ เช่น PeopleStrong Talent OS) นำมาซึ่งแนวทางแบบเฉพาะบุคคล ที่พนักงานแต่ละคนไม่ถูกมองว่าเป็นฟันเฟืองอีกต่อไป แต่เป็นคนคนหนึ่งที่มีความต้องการ ความปรารถนา และศักยภาพแตกต่างกัน

โปรแกรมบริหารจัดการบุคลากรให้ความสำคัญมากขึ้นกับการรักษาบุคลากรที่มีศักยภาพสูง (HiPo) และการสร้างประสิทธิผลในการบริหาร ขณะที่เราจะพบกับการลงทุนในโปรแกรมเหล่านี้มากขึ้นต่อไปในอนาคต

3. เมตาเวิร์ส ที่สุดของประสบการณ์การเรียนรู้

คุณคงไม่พลาดงานเมตาเวิร์สที่เพิ่งจัดไปของเฟซบุ๊ก หรือที่เรียกว่า เมตา ในตอนนี้ ขณะที่เมตาเวิร์สไม่ใช่เรื่องใหม่ การนำไปใช้ และมันจะมีบทบาทอย่างไรในอนาคตอันใกล้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากมุมมองขององค์กร นั้นจะเป็นเรื่องใหม่ เทคโนโลยีการเรียนรู้จะเป็นส่วนหนึ่งของภาพที่ใหญ่กว่า ในการทำให้พนักงานและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในระบบนิเวศเข้ามามีส่วนร่วมในโลกดิจิทัลที่คงอยู่ตลอดไป และเชื่อมต่อกับโลกที่จับต้องได้ในหลาย ๆ ด้าน

หลาย ๆ องค์กรมองไปที่เมตาเวิร์สแล้ว เพื่อที่จะสร้าง LearnScape (ระบบนิเวศการเรียนรู้) ของตัวเอง ที่ซึ่งนวัตกรรม การให้ข้อมูลเป็นศูนย์กลาง การคิดเชิงระบบนิเวศ กรอบความคิดที่มุ่งเน้นการเติบโต และการ การพบปะมีส่วนร่วมของพนักงาน มันเป็นมากกว่าแค่การทำให้เป็นเกม และในแง่หนึ่ง มันคือการบูรณาการความจริงคู่ขนานเข้ากับความจริงของเรา ซึ่งรวมทีมทีมข้ามสายงานและทีมระหว่างฝ่ายเข้าด้วยกันในการสร้างระบบนิเวศสำหรับการเสริมสร้างศักยภาพ

4. เทคโนโลยีจัดการเงินเดือนไปจนถึงประสบการณ์ของพนักงานที่ยกระดับ

โปรแกรมบริหารงานบุคคลและจัดการเงินเดือนพื้นฐานมักจะถือว่าเป็นพื้นฐานในโลกทรัพยากรบุคคล แบรนด์ไม่ได้สำคัญมากตราบใดที่คุณไม่ทำผิดพลาดมากเกินไป แต่ด้วยโมเดลบุคลากรที่กำลังเปลี่ยนไป และองค์กรที่จ้างพนักงานระยะสั้น พนักงานสัญญาจ้าง และพนักงานชั่วคราวมากขึ้น บริษัทต่าง ๆ จึงได้ตระหนักว่า เทคโนโลยีจัดการเงินเดือนสร้างความแตกต่างได้มหาศาล

การจัดการเงินเดือนตอนนี้ถูกยกระดับขึ้นมาจากที่เคยเป็นเพียงความถูกต้องแม่นยำมาเป็นประสบการณ์ นอกจากนี้ การนำเทคโนโลยีมาใช้มากขึ้น ทำให้หน่วยประมวลผลเงินเดือนขยายบทบาทของตัวเอง (แบ่งศูนย์ต้นทุน) ซึ่งช่วยลดค่าใช้จ่ายได้ 6 แสนรูปีต่อปี สำหรับองค์กรที่มีพนักงาน 3,000 คน

อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Zero-Touch เทคโนโลยีจัดการเงินเดือนอัตโนมัติ 100 เปอร์เซ็นต์ของเรา

5. โละกลไกประเมินผลที่ล้าสมัย

ในเมื่อการทำงานทำจากที่ใดก็ได้ เราจึงควรให้ความสำคัญกับผลลัพธ์ที่จับต้องได้จากหน้าที่ต่าง ๆ มากกว่า ด้วยเหตุนี้ โครงสร้างที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ โดยมีทีมในรูปแบบของกลุ่ม กำลังจะทำลายลำดับชั้นเพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ สิ่งนี้ทำให้ความต้องการการประเมินตามโปรเจกต์ และเป้าหมายในการทำงานร่วมกันพุ่งสูงขึ้นมาก

ในการศึกษาไม่นานมานี้ของเรา เราพบว่าองค์กรกำลังมุ่งไปสู่กรอบเชิงวัตถุวิสัยสำหรับการบริหารผลการปฏิบัติงาน เพื่อหาผู้มีผลสัมฤทธิ์สูง และให้พวกเขามีส่วนร่วมได้อย่างมีประสิทธิผล อุตสาหกรรมไอที บริการที่เกี่ยวกับไอที และอินเทอร์เน็ต กำลังนำการเปลี่ยนแปลงนี้ และธุรกิจอื่นๆ จะตามมาในไม่ช้า นอกจากนี้ หลาย ๆ องค์กรกำลังสลายทีมที่ทำงานแยกกันในการบริหารจัดการบุคลากรแบบเดิม ๆ ด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลจากหน่วยต่าง ๆ เข้าด้วยกัน บริษัทกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้เชื่อมการบริหารผลการปฏิบัติงานเข้ากับแผนพัฒนารายบุคคลของตัวเองแล้ว

6. ยอมรับการเคลื่อนย้ายบุคลากรเป็นกลยุทธ์การรักษาคน

ขณะที่สงครามแย่งชิงบุคลากรดำเนินต่อไปในปี 2022 เราจะเห็นบริษัทจำนวนมากขึ้นที่เปิดรับ ‘ตลาดบุคลากร’ ตลาดบุคลากรคือแพลตฟอร์มที่ให้ผู้บริหารทั่วทั้งองค์กรลงประกาศสำหรับตำแหน่งที่ว่างอยู่ งานชั่วคราว โปรเจกต์ระยะสั้น ระยะยาว หรือพาร์ตไทม์ การสอนงาน และโครงการอื่น ๆ ที่ต้องการบุคลากรภายในองค์กร

โดยใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ ตลาดบุคลากรสามารถช่วยอำนวยความสะดวกในการจับคู่ที่ตรงกันระหว่างงานที่มีอยู่กับพนักงานซึ่งอาจมีทักษะที่ใช่ โดยไม่จำกัดแผนกหรือหน้าที่ตามตำแหน่งงาน

หน้าที่ของฝ่ายทรัพยากรบุคคลเปลี่ยนไปแล้วตลอดกาล ที่ผ่านมา ฝ่ายทรัพยากรบุคคลมีที่นั่งที่โต๊ะบริหารเสมอ แต่ตอนนี้เดิมพันสูงขึ้น เพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นจริง ๆ กับธุรกิจ ขอยกคำพูดของจอช เบอร์ซินที่ว่า ถึงเวลาที่ต้องคิดถึงหน้าที่ของฝ่ายทรัพยากรบุคคลในฐานะที่เป็นองค์กรบริการมืออาชีพ: องค์กรที่มีทั้งที่ปรึกษา ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ การให้บริการ และเทคโนโลยี รวมอยู่ในที่เดียว

ถ้าปี 2021 จะสอนอะไรเรา ก็คงเป็นสิ่งนี้ ไม่เป็นไรที่จะทำแผนงานจากศูนย์  ไม่เป็นที่จะรวมกลุ่มกันเพื่อทำงานร่วมกันได้เร็วขึ้น ไม่เป็นไรที่จะนำเครื่องมือดิจิทัลมาใช้อย่างรวดเร็ว ผู้คนจะปรับตัว แต่เราต้องพยายามก้าวไปข้างหน้าอย่าได้หยุด และเปลี่ยนแปลงให้พร้อมสำหรับสิ่งที่จะมาต่อไป

ขอให้คุณประสบความสำเร็จมาก ๆ บรรลุเป้าหมาย และสวัสดีปีใหม่