โมเดล SaaS คืออะไร
แนวทางการใช้ซอฟแวร์เพื่อการบริการหรือโมเดล SaaS นั้นหมายถึงการที่เรานำซอฟแวร์สักตัวหนึ่งจัดเก็บไว้บนคลาวด์ ซึ่งก็คือการจัดการผ่านทางเว็บบราวเซอร์ และบริษัทจ่ายค่าธรรมเนียมรายเดือนเพื่อการเข้าถึงซอฟแวร์ตัวนี้ การทำให้สินค้าประเภท SaaS นี้คุ้มค่ากับราคาจำเป็นต้องใช้ความรู้การเขียนโค้ดและทักษะการออกแบบการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้มากทีเดียว
โดยทั่วๆ ไปนั้น ธุรกิจ Saas น่าจะเป็นโมเดลธุรกิจที่ซับซ้อนที่สุดในซีรี่ย์แนะนำความรู้ของเรา
ความแตกต่างหลัก ๆ ของธุรกิจ SaaS กับบริษัทซอฟแวร์คือ Saas นั้นจัดเก็บและให้บริการผ่านคลาวด์ ซึ่งทำให้การต้องขอใบอนุญาตสำหรับผู้ใช้ซอฟแวร์และการต้องหาโครงสร้างมาเพื่อซอฟแวร์นั้นไม่จำเป็นอีกต่อไป และนั่นก็เป็นเพราะบริษัท SaaS สามารถจัดการเรื่อง การทำสมาชิกได้เอง ลูกค้าเพียงต้องทำการเข้าระบบและก็จะใช้งานได้เต็มรูปแบบ ซอฟแวร์การจัดการทรัพยากรบุคคลบนคลาวด์กำลังได้รับการยอมรับจากองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่เนื่องจากมีประโยชน์ที่มากมาย
SaaS ที่ใครๆ ก็ต้องการ
การบริการรูปแบบนี้น่าดึงดูดใจอย่างไม่น่าเชื่อ เจ้าของธุรกิจที่ไม่อยากเสียเงินลงทุนเงินมหาศาลไปกับการสร้างระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมักจะหันมาใช้บริการ SaaS และบริการ SaaS ก็สามารถกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจได้อย่างดี เช่นองค์กรที่ใช้ O365 ในระบบอีเมล หรือ แผนกบุคคลที่ใช้ PeopleStrong ธุรกิจ SaaS ช่วยกำจัดความเสี่ยงให้กับลูกค้าที่ใช้บริการโดยต้องเสียค่าธรรมเนียมสมาชิกต่อเดือนในราคาถูก
แม้ว่าธุรกิจ SaaS จะมีช่องทางในการหารายได้ได้ หลากหลาย แต่โดยทั่วๆ ไปแล้ว รายได้หลักๆ มาจากการต่อสมาชิก ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าและ คุณประโยชน์ของซอฟแวร์ด้วยการจ่ายค่าธรรมเนียมสมาชิก เพื่อการขยายธุรกิจ SaaS จำเป็นต้องพึ่ง การลงทุนใหม่ขนาดใหญ่ เพื่อให้สามารถได้กำไรอย่างทั่วถึง และจูงใจให้คนจำนวนมากหันมาซื้อธุรกิจประเภท SaaS โดยอยู่บนพื้นฐานของความเชื่อมั่นใน การเจริญเติบโตของธุรกิจที่
ต่อเนื่องและมั่นคง
บทความที่เกี่ยวข้อง: ทุกสิ่งที่ต้องรู้เกี่ยวกับการวางแผนระเบียบการคุ้มครองข้อมูลทั่วไป
ธุรกิจ SaaS ใน 3 ช่วงเวลา
สำหรับคนทำธุรกิจ SaaS นั้นจะต้องประสบกับ 3 ช่วงหลักๆด้วยกัน คนส่วนมากเข้าใจถึงช่วงเริ่มต้น และ ทุกคนจะฝันถึงช่วงธุรกิจงอกเงยที่เงินไหลมาเทมา แต่ช่วงที่คนมักไม่อยากกล่าวถึงคือช่วงที่เรียกว่าการเติบโตแบบข้ามขั้น ซึ่งเป็นช่วงที่มีความสำคัญมากช่วงหนึ่งสำหรับธุรกิจ SaaS ว่าจะไปรอดหรือจะล่ม
- ช่วงเริ่มต้น – เป็นช่วงของการทำให้ทุกอย่างดำเนินไปได้ การวางโปรแกรมสำหรับสินค้า และการเข้าสู่ตลาดเพื่อให้ได้ลูกค้ากลุ่มแรก
-
ช่วงการเติบโตแบบข้ามขั้น –หากตลาดชอบสินค้าของคุณ คุณก็จะเติบโตได้อย่างมากและรวดเร็วเพราะธุรกิจปรับใช้ซอฟแวร์ของคุณ แม้ว่าจะฟังดูดีแต่คุณจะเสียเงินมากขึ้นเพราะคุณจำเป็นที่จะต้องขยายฐานข้อมูล การเก็บข้อมูล ความเร็วในการส่งข้อมูลและเทคนิคทุกประเภทอย่างรวดเร็วเพื่อรองรับลูกค้าใหม่ ๆ อย่าลืมว่าลูกค้าเลือกสินค้า SaaS เพราะพวกเขาไม่ต้องการสร้างโครงสร้างเทคโนโลยีสารสนเทศต่าง ๆ ให้ธุรกิจด้วยตัวเองและสาเหตุที่พวกเขาไม่ต้องทำเอง ก็เพราะผลิตภัณฑ์ SaaS ได้ให้บริการเหล่านั้นผ่านการจ่ายค่าธรรมเนียมสมาชิก
- ช่วงธุรกิจงอกเงย – นี่คือช่วงที่ธุรกิจ SaaS ของคุณมั่นคงแล้ว คุณเริ่มที่จะได้กำไรที่เสถียร และการได้ลูกค้าใหม่ ๆ อย่างรวดเร็วจะไม่กระทบต่อระบบโครงสร้างของคุณเหมือนในช่วงการเติบโตแบบข้ามขั้น คุณจะคุ้นเคยกับการถูกลูกค้าเลิกใช้บริการ ซึ่งเรากำลังจะอธิบายเพิ่ม
ผลิตภัณฑ์ SaaS หลายชิ้นนั้นดีทีเดียวแต่การไม่สามารถจัดการกับการเติบโตแบบข้ามขั้นได้นั้นเป็นสิ่งที่ธุรกิจมากมายต้องเผชิญและเป็นสาเหตุให้พวกเขาล้มเหลว ดังนั้น การเติบโตแบบข้ามขั้นเป็นเสมือนการเดินทางที่บริษัท SaaS ทุกบริษัทต้องเลือกผู้บุกเบิกที่เข้าใจธุรกิจ SaaS อย่างแท้จริง
อนาคตของ SaaS
PeopleStrong ในฐานะคนทำธุรกิจ SaaS อย่างแท้จริง
ผมได้ยินคำถามว่า SaaS ที่แท้จริงคืออะไร ความแตกต่างหลัก ๆ อย่างที่ผมได้อธิบายไว้ข้างต้นคือเรื่องของการปรับขนาดได้ กำหนดค่าได้และประสิทธิภาพในการใช้งานร่วมบนเซิร์ฟเวอร์โดยผู้เช่าหลายคน สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ PeopleStrong จัดการอยู่บนโครงสร้างข้อมูลและระบบข้อมูลร่วม ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลและการใช้งานของลูกค้าจำนวนมาก ลักษณะสำคัญของธุรกิจ SaaS อย่างแท้จริงคือ SaaS คือวิธีที่ดีที่สุดในการนำเสนออัพเดทที่มีประสิทธิภาพและสม่ำเสมอ การแบ่งปันวิธีการทำงานทีดีที่สุดระหว่างลูกค้า กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจที่ครบครัน แนวปฏิบัติและความปลอดภัยที่ดีขึ้นเมื่อเทียบกับโมเดลแรกๆ ของ SaaS
การใช้งานร่วมบนเซิร์ฟเวอร์โดยผู้เช่าหลายคนช่วยให้ผู้ให้บริการประหยัดต้นทุนได้อย่างไม่น่าเชื่อและนั่นหมายถึงการประหยัดเงินให้กับลูกค้าด้วย ลูกค้าทุกคนสามารถเลือกการอัพเกรดได้เร็วและถูกกว่ามากเมื่อเทียบกับการดูแลระบบด้วยตัวเอง หรือวิธี SaaS ปลอม ๆ ยิ่งไปกว่านี้ ทุกคนยังสามารถทำการเพิ่มบุคคลที่ 3 และการบูรณาการต่าง ๆ ได้อีกด้วย
ในบริบทปัจจุบัน SaaS ยังเพิ่มข้อได้เปรียบได้อีก 1 ข้อ ซึ่งได้แก่การสนับสนุนการทำงานทางไกลขององค์กร ประเทศทั่วโลกต้องเผชิญกับการล็อคดาวน์ในช่วงครึ่งแรกของปี 2563 ทำให้องค์กรที่ใช้ระบบขับเคลื่อนที่พัฒนาสืบทอดต่อกันมาต้องพบกับความท้าทายแบบใหม่
บริหารคนจากทางไกลต้องทำอย่างไร
ที่ PeopleStrong เราเชื่อในโมเดล SaaS ที่แท้จริงและตั้งแต่เดือนมีนาคมปีนี้ มีการใช้โมดูลกว่า 250 โมดูลในองค์กรกว่า 75 แห่งแบบทางไกล!
ผมไม่ได้กำลังจะบอกว่าโมเดล SaaS อันไหนก็ได้เป็นโมเดลที่ดี หรือโมเดลที่ไม่ใช่ SaaS เป็นอันที่แย่ ธุรกิจแต่ละธุรกิจมีความต้องการที่ต่างกันไปและโมเดลที่เอามาใช้ จะเป็น SaaS หรือไม่ก็ตาม ก็อาจจะแย่ได้ทั้งนั้น อย่างไรก็ตาม ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่าโมเดล SaaS คืออนาคตของซอฟแวร์ธุรกิจ และคุณต้องถามตัวเองว่าคุณจะคว้าข้อได้เปรียบนี้ไว้หรือจะปล่อยให้คู่แข่งคว้าไป ในขณะที่คุณมีเหลือแต่ระบบซอฟแวร์ธุรกิจที่ราคาสูง ไม่มีระบบรองรับ ไม่มีประสิทธิภาพที่ในอนาคตอันใกล้นี้คนจะมองว่าเป็นเพียงซากของเก่าจากอดีต